สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาเล่าเรื่องทำ Part time มินิมาร์ทที่ญี่ปุ่น Daily Yamazaki (デイリーヤマザキ ) สมัยตอนเรียนที่ญี่ปุ่น
ไม่มีรูปตัวเองเลยค่ะ ขนาดวันที่ร่ำลายังไม่ได้ถ่ายรูป ><
จริงๆเราทำ Part time 2 ที่นะคะมีที่ร้านอาหารไทยด้วย แต่อยากเล่า Part ของ Minimart ก่อน
การทำ Part time ที่ญี่ปุ่นจะเรียกว่า อะรุไบโต๊ะ หรือไบโต๊ะ เราเลือกทำที่ใกล้ๆที่พักเรา คือสถานนีรถไฟคันไน โยโกฮาม่าค่ะ ได้ทำที่มินิมาร์ทตอนเดือนมกราคม 2017 ถึง เมษายน 2017 (ประมาณ 4 เดือน)
Daily Yamazaki ( デイリーヤマザキ)
ขอเกริ่นก่อนว่า Daily Yamazaki ( デイリーヤマザキ ) เป็นมินิมาร์ทที่มีขนมปังสดขายด้วย แต่ละสาขาก็จะมีห้องอบขนมปังเล็กๆอยู่ แต่ Daily Yamazaki ไม่ได้เป็นมินิมาร์ที่ดังมาก ส่วนใหญ่จะเห็นที่ต่างจังหวะมากกว่าโตเกียว ขนมปังอร่อยมากบอกเลย 5555
การสมัคร Part time ญี่ปุ่นผ่านเว็บ
เราตัดสินใจสมัครทำ Part time ที่นี้ด้วยความไม่อยากทำเท่าไหร่ 555 คือไม่อยากทำงานที่ต้องสื่อสารมาก ไม่อยากคุยกับใคร เพราะภาษาญี่ปุ่นยังด้อยๆอยู่ ตอนนั้นเพิ่งจบมินนะโน๊ะมิฮงโกะเล่ม 4 เลยสมัครตำแหน่งทำขนมปังไป สมัครในเว็บ https://townwork.net/ เป็นเว็บสำหรับหางาน Part time ในญี่ปุ่น (ถ้าอ่านไม่ออกให้เปิดใน Google Chrome >> คลิกขวา >>เลือก Translate to English)
ถ้าเราสมัครไปแล้ว เค้าก็จะโทรมาเรียกไปสัมภาษณ์ ตอนนั้นเค้าโทรมา แต่เรายังคุยโทรศัพท์ไม่รู้เรื่อง 55555 เค้าใช้ภาษาสุภาพค่ะ (T_T) ตอนนั้นเราตัดสินใจว่า เอาวะ ถ้าไม่ทำ ก็ไม่มีเงิน เราเลยตอบเค้าไปว่า “รอแป๊บนึงนะคะเดี๋ยวหนูวิ่งหาไปหาตอนนี้เลย !” แล้วเราก็วิ่งไปจริงๆ (เหมือนในหนังญี่ปุ่นอ่ะ 555 ) แล้วก็ไปถึงร้าน เค้าตกใจมาก ไม่คิดว่าจะไฟท์จะขนาดนี้ 5555
พอตอนสัมภาษณ์ เราบอกว่าเราพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ค่อยได้ไม่อยากทำ Cashier อยากทำขนมปัง แต่ลูกพี่บอกว่า ตอนนี้เราก็คุยภาษาญี่ปุ่นกันอยู่นี่ไง เราพูดได้ สรุปลูกพี่ให้ทำตำแหน่ง Cashier ซะงั้น แง๊ (เป็นงานที่ไม่อยากทำที่สุดดดด) ซึ่งเป็นกะ 06.00-09.00 เช้าเวอร์ แต่ไม่เป็นไร เพื่อเงินเราทำได้ (980 เยน/ชั่วโมง) ก็ตื่นตี 5 ทุกวัน หนาวมากกก
ยูนิฟอร์ม Daily Yamazaki ก็มีนะ
ยูนิฟอร์มของ Daily Yamazaki จะเป็นเสื้อเชิร์ตสีขาวแขนยาว กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ มีหมวกสีเขียว ผ้ากันเปื้อน (ตามรูป) เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย งานยุ่งจริงๆตอนนั้น จะถ่ายก็กลัวรบกวนคนอื่น
เอ้า! เริ่มงานกันเลย รออะไรหล่ะ
เราต้องตื่นตี 5 เพื่อมาถึงร้าน 05.30 งานแรกๆก็คือ กวาดร้าน เปิดร้าน (ร้านไม่เปิด 24 ชั่วโมงเพราะอยู่ในสถานีรถไฟ ) จัดเชล์ฟวางขนมวางของ อันนี้ต้องรู้ประเภทอาหารว่าอันไหนใส่เชล์ฟอุ่นอันไหนใส่เชล์ฟเย็น จัดเชล์ฟทุกอย่างจนคุ้นชินว่าอะไรอยู่ตรงไหน เก็บขยะไปทิ้ง และอื่นๆ บางทีก็จะมีคุณลุงไร้บ้านมาขโมยขนมตอนที่เรายังจัดเชล์ฟไม่เสร็จบ้าง ยามก็มาฟ้อง หลังๆลุงคนไร้บ้านไม่มาแล้ว เราก็จะหยิบขนมไปเผื่อลุงตอนเราเลิกงาน
ยิ่งยากยิ่งต้องฝึก
(ในรูปนี้มีเขียนภาษาญี่ปุ่นผิดนะคะ)
พอเริ่มงานจริงๆ เราได้คู่มือมาฝึกพูด สคริปต์ต่างๆเวลาคุยกับลูกค้า การทักทายลูกค้า วิธีการนับเงินทอน ต้องโชว์เงิน และประโยคอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งยากมากกกกกกกกกกกกกก ก็เลยทำโพยติดไว้ในห้องนอน (มีเขียดผิดบ้าง 555)
และที่ต้องฝึกเพิ่มก็คือการพูดจำนวนเงินเป็นภาษาญี่ปุ่น (T_T) อย่างเช่น 1,250 เยน อ่านว่า เซนนิเฮี๊ยะคึโก๊ะจู้เอ็น ทำไมมันยาวอย่างเง้ ! และยังมีประโยคอื่นๆที่ต้องฝึกพูดมากมาย T_T พอถึงวันที่ต้องขึ้นเขียง คือเข้าไปทำ Cashier จริงๆ ต้องมี Step การคิดเงินหยิบถุงทอนเงิน ซึ่งต้องทำตาม Step เป๊ะๆ แรกๆก็ทำไม่ได้ ตื่นเต้น + ลำดับความคิดไม่ถูก
แรกๆต้องมีคนประกบ อาจจะช่วยหยิบถุง เอาของใส่ถุง เอาขนมปังใส่ถุง บลาๆ พอทำไปทำมา เริ่มชินทำคนเดียวได้ แต่กะของเราคือกะเช้าซึ่งช่วง 07.00 คนเยอะมากกกกก ใครหล่อไม่หล่อไม่สนแล้ว คนเยอะเวอร์ เพราะสาขานี้อยู่ในสถานีรถไฟ ทางเข้ารถไฟเลย เราต้องทำทุกอย่างแข่งกับเวลา และถ้าเมื่อไหร่ที่มีลูกค้าฝรั่งมา ทุกคนจะเรียกเราทันที “พลอยจังช่วยด้วย 5555 ”
ชั้นบุหรี่มินิมาร์ทญี่ปุ่นก็จะประมาณนี้ 5555 (เอารูปมาจากในกูเกิ้ล)
ปัญหาอีกอย่างคือบุหรี่ ซึ่งมีเป็นร้อยๆชนิด (ตามภาพ) แล้ววววว คนญี่ปุ่นจะพูดชื่อบุหรี่เป็นภาษาอังกษฤสำเนียงญี่ปุ่น อย่างเช่น Mevius เค้าจะพูดเป็น … เมบียสสุ …คุณพระ …ตอนแรกฟังไม่รู้เรื่อง เค้าก็พูดเป็นเลขมา คุณพระ … แต่ละเลขอยู่ตรงไหนยังไม่รู้มีเป็นรอยเลย ร้องห้ายยยย T__T แรกๆก็มึนมากก จนได้จัดเชล์ฟบุหรี่เอง ก็เลยชินแล้วก็จำได้
ข้อดีของการทำ Part time ที่มินิมาร์ท
- ภาษาญี่ปุ่นจะเป็นไวมาก เพราะต้องพูดตลอดเวลา ไม่แค่พูดสมองก็ต้องคิด Step ต่างๆอีก
- ความคิดเราจะเป็นระเบียบมากขึ้น เพราะว่ามินิมาร์ทญี่ปุ่น งานค่อนข้างเป็นระเบียบ บริการต้องเนี๊ยบ Step ต้องเป๊ะ พอเราลองคิดตามทำตาม ความคิดก็จะเป็นระเบียบขึ้น
- ได้คำศัพท์ใหม่ๆ ประโยคใหม่ๆมากมายจากที่ในบทเรียนที่เรียนอยู่ กลายเป็นว่าพอเรามาทำมินิมาร์ทญี่ปุ่น ในขณะที่เพื่อนๆในห้องยังคงทำงานร้านอาหารประจำชาติตัวเองอยู่ เราก็จะมี Skill มากกว่าเพื่อนๆ สามารถไปได้ไว (แต่ตอนนี้ลืมหมดละ)
- ได้ของไปกินฟรี 4 อย่าง/วัน ประหยัดค่าข้าวไปอีก สบายยยย
- เงินดีกว่าร้านอาหารไทย เพราะว่าคิดค่าแรงตามกฎหมายเลย (980 JPY/Hr)
- ได้สัมผัสวัฒธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้ทรู เพราะมินิมาร์ทญี่ปุ่น มันคือ… เพื่อคนญี่ปุ่นจริงๆ บริการแบบญี่ปุ่นจริงๆ
สุดท้ายนี้ อยากฝากว่า ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน 55555555 แรกๆต้องปรับตัวเป็นเรื่องธรรมดา แต่เมื่อชินแล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้น ไม่ต้องกลัวว่าภาษาไม่ได้ ถ้ามัวแต่กลัวก็จะพูดไม่ได้ซักที ไม่ต้องกลัวคนญี่ปุ่นตอนเค้าข่ม จริงๆแล้วคนญี่ปุ่นกลัวคนต่างชาติด้วยซ้ำ 555 ทุกอย่างคือประสบการณ์ชีวิต ไม่ลองไม่รู้ ไม่ลองออกจาก Comfort Zone (ตอนนั้นร้านอาหารไทยคือ Comfort zone ของเรา) ภาษาก็ไม่พัฒนาซักที สู้ๆนะทุกคนนนนน มันยากแต่เราฝึกเราก็ทำได้